Wednesday, September 11, 2013

กลูตาไธโอนอันตรายมั้ย? กลูตาไธโอนอันตรายจริงหรือ?!?

Q : ตามที่มีข่าวว่าสารกลูตาไธโอนเป็นสารอันตราย ทำให้ตาบอดและเป็นมะเร็ง อยากทราบว่า กลูตาไธโอน อันตรายจริงหรือคะ? เพราะพี่สาวที่อยู่ต่างประเทศใช้ยาตัวนี้มานานแล้วบอกว่าปลอดภัย อยากทราบความเห็นของคุณหมอต่อกรณีนี้ค่ะ
ประภัสสรา/จ.กรุงเทพฯ


A : กลูตาไธโอน (Glutathione) ที่เป็นประเด็นในข่าวดังเกี่ยวกับการฉีดสารนี้เพื่อทำให้ผิวขาวใสของคลินิกผิวหนังบางแห่ง ซึ่งเป็นวิธีที่ยังไม่ได้รับการรับรองความปลอดภัยจากองค์การอาหารและยา (อย.) เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานั้น เป็น tripeptides ของกรดอะมิโน 3 ตัว คือ ซิสทีน (cysteine), กรดกลูตามิค (glutamic acid) และไกลซีน (glycine) ปกติร่างกายสามารถผลิตได้เองตามธรรมชาติ และยังได้จากอาหารหลายอย่าง เช่น โปรตีน นม ไข่ ผลอะโวคาโด สตรอเบอร์รี มะเขือเทศ ผักบรอคโคลี ส้มเกรปฟรุต และผักโขม กลูตาไธโอนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระจึงช่วยในแง่ชะลอความเสื่อมของร่างกาย เพราะอนุมูลอิสระจะวิ่งสะเปะสะปะไปชนเซลล์ต่างๆ ทำให้เกิดการบาดเจ็บและเสื่อมสภาพ มีผลในแง่เสริมภูมิต้านทานและยังช่วยให้ตับขจัดสารพิษออกจากร่างกาย กำลังมีงานวิจัยที่จะนำสารตัวนี้มารักษาโรคมะเร็ง โรคหัวใจ ข้ออักเสบ โรคพาร์กินสัน (ที่มีอาการมือสั่น ควบคุมการทรงตัวลำบาก) โรคตับ โรคไต โรคเอดส์ ภาวะเป็นหมันในเพศชาย และภาวะหูตึงจากเสียงดัง ยังไม่แนะนำให้สตรีมีครรภ์หรือกำลังให้นมบุตรรับสารตัวนี้โดยไม่ปรึกษาแพทย์ สารตัวนี้มีการใช้กันแพร่หลายจริงในต่างประเทศและจัดว่าปลอดภัยหากใช้ในการดูแลของแพทย์

ส่วนที่มีข่าวว่าทำให้ตาบอดและเป็นมะเร็งนั้น ความหมายจริงๆ ก็คือ ผลอย่างหนึ่งของสารตัวนี้อาจทำให้ผิวขาวขึ้น ในคนผิวขาวจะมีสีเมลานินที่ม่านตาและที่ผิวหนังที่ช่วยกรองรังสียูวีน้อยลง ทำให้คนผิวขาวได้รับผลเสียของแสงแดดมากกว่า จึงมีโอกาสเกิดต้อกระจก (ไม่ใช่ตาบอด) ผิวเหี่ยวแก่ และ มะเร็งผิวหนังได้มากกว่าคนผิวสีเข้ม คนผิวขาวจึงควรหลีกเลี่ยงการโดนแดดจัด ใช้ยากันแดดและสวมแว่นตาดำ กรณีนี้ให้นึกถึงไมเคิล แจ็คสันนั่นแหละครับ เขาเป็นโรคด่างขาว และไปฟอกสีจนกลายเป็นคนผิวขาว จะไปไหนทีต้องใส่เสื้อผ้าแขนยาว คลุมหน้า คลุมตัว สวมแว่นดำ เรื่องของกลูตาไธโอนนี้ ศ.นพ.ปิติ พลังวชิรา ผู้อำนวยการศูนย์ผิวหนังมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรศาสตร์ชะลอวัย (anti aging medicine) มีความเห็นเกี่ยวกับสารตัวนี้ว่าเป็นสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะเมื่อร่างกายต้องรับสารอนุมูลอิสระเข้าไป สารต้านอนุมูลอิสระก็จะช่วยปรับให้สภาพร่างกายเกิดความสมดุล และยังเป็นตัวขจัดของเสียหรือสารพิษที่เข้าสู่ร่างกาย ตั้งแต่สารปรอท ยาฆ่าแมลง หรือยาบางชนิดที่กินเข้าไปและเหลือตกค้าง ตับจะทำหน้าที่ขับสารพิษออกมาโดยสารกลูตาไธโอนมีบทบาทสำคัญ ยาที่มีส่วนประกอบของกลูตาไธโอนไม่ได้น่ากลัว ยาที่อยู่ในกลุ่มของยากินนั้นในต่างประเทศมีขายอยู่ตามร้านขายยาทั่วๆ ไป ในเมืองไทยสารกลูตาไธโอนอยู่ในผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพ แต่ยาที่อยู่ในรูปของการฉีดเพื่อรักษาฝ้านั้นในเมืองไทยยังไม่มีการวิจัย จึงอยากฝากถึงนักวิจัยที่ทำงานด้านยาหรือการรักษา หากต้องการใช้ยาประเภทกลูตาไธโอน ควรจะทำวิจัยให้จริงจัง การกินยาที่มีสารประเภทกลูตาไธโอนจะดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้น้อยกว่าการฉีด ซึ่งทำให้ผู้ที่ใช้ยาประเภทนี้นิยมฉีด และที่สำคัญ ต้องฉีดเข้าเส้นเลือด ซึ่งต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ที่มีความรู้ความชำนาญ นอกจากฉีดเข้าเส้นแล้วยังสามารถฉีดเข้ากล้ามเนื้อ หรือใช้สูดดมได้อีกด้วย ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมต่อแต่ละโรค

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยากลูตาไธโอนที่ใช้ในการรักษาฝ้าหรือฉีดให้ผิวขาวนั้นยังถือว่าผิดกฎหมาย เพราะการนำยาประเภทนี้เข้ามายังไม่ได้ขึ้นทะเบียน อย. ถ้าต้องนำมาใช้รักษาฝ้าควรมีการค้นคว้าวิจัย ซึ่งคนที่เป็นฝ้าจำนวนมากพอใจกับการรักษาด้วยสารกลูตาไธโอน เนื่องจากกลูตาไธโอนจะไปเปลี่ยนยูเมลานินซึ่งเป็นสีผิวที่คล้ำ ให้กลายเป็นฟีโอเมลานิน ทำให้สีผิวจางหรือขาวขึ้น

Source: Health Today

No comments:

Post a Comment